641 จำนวนผู้เข้าชม |
เป็นผู้หญิงสมัยนี้ไม่ได้ลำบากต้องพึ่งผู้ชายไปทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ด้วยสังคมและเทคโนโลยีให้ความสำคัญกับผู้หญิงมากขึ้น คำว่า “เป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก” ใช้ไม่ได้อีกแล้ว โดยเฉพาะเรื่องรถ เมื่อก่อนผู้หญิงสักคนจะขับรถไปไหนมาไหนด้วยตัวเองนั้นอาจจะถูกมองว่าแก่นแก้ว ไม่มีใครอยากดูแล แต่ตอนนี้ผู้หญิงต้องมีรถของตัวเอง ต้องขับรถเอง ดูแลรถได้ ถึงจะดูว่าเป็นผู้หญิงเก่ง เรื่องขับรถสำหรับผู้หญิงดูไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้ว แต่ที่ยังมีปัญหากันอยู่บ่อย ๆ ระหว่างผู้หญิงกับรถ ก็คือ การดูแลรถ เราเราคุณผู้หญิงที่รักรถทุก ๆ คน ขอนำเสนอวิธีดูแลรถแบบครบถ้วนให้คุณผู้หญิงที่รักรถทุกคนไม่ต้องมีปัญหากับรถคันโปรดอีกต่อไป
เคล็ดลับการดูแลรักษารถยนต์สำหรับผู้หญิง
ความจริงแล้วเคล็ดลับที่ว่าไม่เป็นเรื่องลับอะไรมากมาย คนส่วนใหญ่ที่ดูแลรถเป็นก็รู้กันดี เพียงแต่สำหรับผู้หญิงที่ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้มากนักสามารถนำไปใช้เป็นหลักในการดูแลรถ ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือรู้ว่าเวลารถผิดปกติเกิดจากอะไรจะได้บอกช่างรู้เรื่อง เอาล่ะมาดูกันว่าการที่ ผู้หญิงดูแลรถสักคันจะต้องรู้เรื่องอะไรบ้างนะ
แรกเริ่มก่อนว่ารถหนึ่งคันมีส่วนประกอบหลักที่ต้องดูแลอยู่สามอย่าง ภายนอก ภายใน และในห้องเครื่อง ซึ่งแต่ละอย่างจะมีส่วนประกอบยิบย่อยที่เราจะค่อย ๆ แจกแจงให้ฟัง รับรองว่าไม่ยากจนเกินไป
1. ภายนอกตัวถัง
ภายนอกตัวถังรถก็คือทุกอย่างที่เรามองเห็นจากภายนอกนั่นเอง ซึ่งมีหลายอย่างที่จำเป็นจะต้องดูให้ใช้งานได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่เสมอ เพราะมันเกี่ยวกับความปลอดภัย
ตัวถังและสี
การดูแลตัวถังและสีไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทุกคนไม่ว่าจะขับรถเป็นหรือไม่ก็น่าจะคุ้นเคยดี นั่นคือการหมั่นทำความสะอาด มีการลงแว็กซ์ขัดเคลือบสีเป็นระยะ จะเข้าร้านล้างรถ หรือจะล้างด้วยตัวเองก็ได้ ขั้นต้นก็คืออย่าปล่อยให้มีสิ่งสกปรก เช่น ดินโคลน ขี้นก เกาะตัวรถเป็นเวลานาน ไม่ควรข้ามวัน เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบล้างออก เพื่อถนอมสีรถให้สดใสอยู่ได้นาน ส่วนริ้วรอยการชนกระแทก จะป้องกันคงลำบาก ทางที่ดีก็ควรทำประกันรถเอาไว้
ไฟส่องสว่าง
ดวงไฟต่าง ๆ ของรถจะปล่อยให้ดับหรือเสียหายไม่ได้ เวลาปกติอาจไม่รู้สึกถึงมัน แต่ถ้าวันไหนขาดไปจะพบความยากลำบากทันที เพราะฉะนั้นถ้านึกขึ้นได้ควรเช็ดดูว่าไฟหน้า ไฟท้าย ไฟถอย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว ยังทำงานปกติหรือไม่ ถ้าพบว่ามีส่วนไหนไม่ทำงาน ง่ายที่สุดคือเข้าศูนย์หรืออู่ใกล้บ้าน
ใบปัดน้ำฝน
เป็นอีกอย่างที่ไม่ควรปล่อยให้เสื่อมสภาพ ถ้าครบปีก็ควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนสักครั้ง อาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ถ้ามันเสื่อมสภาพแล้วยังฝืนใช้ตอนฝนตกหนัก มันจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุง่ายมาก
ยางรถยนต์
เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะต้องคอยดูแลยางรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี อย่างปลอดภัยที่สุดควรเปลี่ยนทุกสองปี ควรมีที่เช็กลมยางเอาไว้ และหัดใช้ที่เติมลมยางตามปั๊มเอาไว้ เป็นผู้หญิงเติมลมยางได้เองไม่ยากเลย ถ้าพบว่าลมยางอ่อน ดูจากปริมาณลมยางที่เหมาะกับรถ ซึ่งจะอยู่ตรงขอบประตูด้านคนขับ เติมตามตัวเลขนั้นไว้เสมอ และอย่ายืมเช็กยางอะไหล่ และอุปกรณ์เปลี่ยนยางให้พร้อมเสมอ คุณอาจจะลองฝึกเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตัวเองดู มันไม่ยากอย่างที่คิดหรอก
2. ภายในตัวถังรถ
ภายนอกตัวถังรถก็คือทุกอย่างที่เรามองเห็นจากภายนอกนั่นเอง ซึ่งมีหลายอย่างที่จำเป็นจะต้องดูให้ใช้งานได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่เสมอ เพราะภายในตัวถังก็คือบริเวณโดยสารของรถทั้งหมด บริเวณนี้การดูและอาจจะจำกัดอยู่แค่การทำความสะอาด ซึ่งน่าจะเป็นงานที่ทำได้ไม่ยากสำหรับสาว ๆ มาดูกันว่ามีอะไรที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษบ้าง
เบาะหนัง/เบาะกำมะหยี่
เป็นเรื่องที่เถียงกันไม่จบว่าเบาะหนังหรือเบาะกำมะหยี่อย่างไหนดีกว่ากัน เอาเป็นว่าแล้วแต่คนจะชอบ บางคนชอบเบาะหนังเพราะมันดูดี ดูแลรักษาง่าย บางคนชอบเบาะผ้า เบาะกำมะหยี่ เพราะมันมีลวดลายสวยงาม ทั้งสองอย่างใช้การดูแลรักษาต่างกัน ถ้าเป็นเบาะหนังไม่ว่าหนังแท้หรือหนังเทียมก็ต้องใช้น้ำยารักษาเบาะหนังขัดถูเป็นประจำเพราะถ้ารถโดนแดดโดนความร้อนมาก ๆ ใช้ไปนาน ๆ หนังจะเริ่มแตก โดยเฉพาะหนังเทียม ส่วนเบาะผ้า ควรดูแลเรื่องความชื้นไม่ควรปล่อยให้เปียก หรือมีความชื้นนานเพราะอาจจะขึ้นราได้ง่าย
ล้างแอร์
แอร์รถเราสมัยนี้สามารถถอดกรองแอร์ออกมาล้างปัดฝุ่นด้วยตัวเองได้ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจเราสามารถบอกให้ที่ร้านล้างรถ หรืออู่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องถอดออกมาล้างหรือเปลี่ยนให้ได้ แต่ถ้ารถของคุณเข้าศูนย์เป็นประจำทุกปี ทางศูนย์ก็จะจัดการให้
เช็กไฟเตือนทุกครั้งก่อนออกรถ
ก่อนจะออกรถในทุก ๆ วัน สิ่งที่ควรจะมองคือหน้าปัดรถยนต์ เช็กดูว่ามีไฟเตือนขึ้นหรือไม่ เช่น ไฟรูปเครื่องยนต์ที่สว่างขึ้น อาจหมายถึงการเผาใหม้ในระบบไม่สมบูรณ์ เป็นไปได้ทั้งระบบน้ำมัน ระบบจุดระเบิด หรือ ระบบน้ำมันเครื่อง ทางที่ดีควรเอารถเข้าเช็กที่ศูนย์หรืออู่ทันที ยังไม่รวมถึงไฟชนิดอื่น เช่น ไฟรูปเบรกที่อาจจะเกี่ยวกับน้ำมันเบรก หรือผ้าเบรถ ไฟรูปแบต แสดงว่าประจุไฟในแบตเตอรี่เริ่มต่ำ หรือแบตรถเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว
3. ในห้องเครื่องใต้ฝากระโปรง
ใต้ฝากระโปรงเครื่องยนต์นี่แหละ คือจุดลำบากใจของคุณผู้หญิง เพราะมันเต็มไปด้วยชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ดูซับซ้อนสกปรกและอันตราย แต่ไม่ต้องกลัว ถ้าคุณผ่านมันไปได้ คุณจะดูเป็นยอดหญิงแกร่งของโลกใบนี้ เป็นที่พึ่งให้ตัวเองและคนอื่น ๆ ได้ ซึ่งส่วนที่ต้องตรรจเช็กมีดังนี้
น้ำมันเครื่อง
แน่นอนว่าส่วนสำคัญของห้องเครื่องก็คือเครื่องยนต์ การเช็กน้ำมันเครื่องเป็นประจำจะทำให้เรารู้ว่าการทำงานของเครื่องยนต์เป็นเช่นไร เพราะน้ำมันเครื่องก็เหมือนเลือด สีของมันจะบอกทุกอย่างเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องยนต์ มองหาก้านน้ำมันเครื่องส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กับตัวเครื่องยนต์ หากว่าเพิ่งผ่านการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องมาไม่นาน แต่น้ำมันเครื่องมีสีคล้ำหรือลดเกินขีดต่ำสุดของมาตรวัดระดับ แสดงว่ามีการรั่วหรือเครื่องยนต์มีปัญหาการเผาไหม้ ลองก้มดูที่พื้นตำแหน่งใต้เครื่องยนต์ว่ามีน้ำมันเครื่องหยดหรือไม่ หากมีก็ควรเอารถไปเช็ก จำไว้ว่าน้ำมันเครื่องต้องมีสีใส และมีระดับอยู่กึ่งกลางของมาตรวัดน้ำมันเครื่องระหว่างตำแหน่งบนสุดกับล่างสุด หรือไม่น้อยเกินจุดต่ำสุดและไม่มากเกินจุดสูงสุด
ของเหลวอื่น ๆ
ในห้องเครื่องเราจะเห็นว่ามีจุดที่มีมาตรวัดของเหลวอยู่หลายจุด นอกจากจุดวัดน้ำมันเครื่องแล้ว ตรงตำแหน่งใกล้กับพวงมาลัยจะมีที่ใส่น้ำมันเบรกและน้ำมันพวงมาลัยพาวเว่อร์ที่เราต้องคอยดูไม่ให้ระดับต่ำกว่าจุดต่ำสุด น้ำมันพวงมาลัยพาวเว่อร์จะมีสีแดง แต่น้ำมันเบรกจะมีสีใส ส่วนหน้าเครื่องยนต์ส่วนใหญ่จะมีกล่องใส่น้ำปัดน้ำฝนและที่เติมหม้อน้ำ ซึ่งต้องคอยเติมให้เต็ม ส่วนหม้อน้ำเวลาเติมต้องระวังให้เครื่องยนเย็นซะก่อนไม่งั้นจะมีน้ำร้อน ๆ พุ่งออกมา
แบตเตอรี่
ปัจจุบันหลายคนนิยมใช้แบตแห้งกันแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่น แต่ถ้ายังเป็นรถที่ใช้แบตน้ำอยู่ ก็หมั่นดูว่าน้ำลดหรือไม่ แล้วเติมน้ำกลั่นให้เต็มก็พอ ส่วนแบตแห้งจะมีจุดที่ให้ดูว่าประจุไฟมีปัญหาหรือไม่ สำหรับแบตเตอร์รี่สักสองปีควรเปลี่ยนได้แล้ว
สอบถามเพื่มเติมได้ที่
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-785