รถชื่อเรา คนอื่นขับเคลมได้มั้ย? เลือกแผนระบุผู้ขับขี่ตอบโจทย์ก็เคลมได้

เคยสงสัยมั้ยว่าประกันรถยนต์ระบุผู้ขับขี่คืออะไร รวมถึงมีข้อดี-ข้อสังเกตยังไง และหากรถเรา คนอื่นขับ เคลมประกันได้มั้ย? หากคุณกำลังสงสัยในเรื่องนี้อยู่ เราจะแชร์แบบละเอียดยิบ พร้อมกับบอกต่อแผนผู้ขับขี่ของเรามีกี่แผน เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ได้ง่ายขึ้น

ประกันรถยนต์ระบุผู้ขับขี่ คืออะไร?
ข้อดี-ข้อสังเกตของการทำประกันระบุผู้ขับขี่
แผนระบุผู้ขับขี่ของเรา มีกี่แผน อะไรบ้าง?
เรารวมเทคนิคลดเบี้ยประกันรถ นอกจากเลือกแผนระบุผู้ขับขี่ มีอะไรอีกบ้าง?
หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วหากไม่ใช่เจ้าของรถ ทําประกันได้ไหม? คำตอบคือทำได้ แม้ว่าจะไม่ใช่เจ้าของรถก็ตาม ส่วนกรณีคนขับไม่ใช่เจ้าของรถมาขับรถเคลมได้มั้ย ไปหาคำตอบด้วยกันในบทความนี้เลย

ประกันรถยนต์ระบุผู้ขับขี่ คืออะไร?
ความหมายตรงตัวเลย คือ เป็นการทำประกันภัยรถยนต์ที่ระบุตัวตนของผู้ขับขี่ เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถคนเดียว หรือใช้ภายในครอบครัวเป็นหลัก โดยส่วนมากบริษัทประกันจะให้ระบุชื่อได้สูงสุด 2 คน แถมการซื้อประกันแผนนี้ยังช่วยให้คุณได้รับส่วนลดเบี้ยประกันได้อีกด้วย ขึ้นอยู่กับเกณฑ์อายุ ดังนี้

ช่วงอายุ 18-24 ปี ถือเป็นช่วงอายุที่มี “ความเสี่ยงมากที่สุด” ทำให้ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันเพียง 5% เท่านั้น
ช่วงอายุ 25-35 ปี ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน 10%
ช่วงอายุ 36-50 ปี ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน 15%
ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ถือเป็นช่วงอายุที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดทำให้ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันสูงถึง 20%
ข้อดี-ข้อสังเกตของการทำประกันระบุผู้ขับขี่
ข้อดีของแผนระบุคนขับ
ข้อดีของประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ ตามที่เราบอกไปเมื่อข้างต้น คือ คุณจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันตามเกณฑ์ที่กำหนด ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ โดยจะขึ้นผู้ที่อายุน้อยที่สุดเป็นเกณฑ์ในการรับส่วนลด เช่น คนแรกอายุ 55 ปี ส่วนคนที่สองอายุ 25 ปี ส่วนลดเบี้ยประกันที่จะได้รับ คือ 10% เท่านั้น ไม่ใช่ 20% ตามช่วงอายุของคนแรก

ข้อสังเกตของแผนระบุคนขับ
ข้อสังเกตของแผนประกันภัยรถยนต์แบบระบุคนขับ หลายคนอาจมองว่าเป็นข้อเสียแม้บริษัทประกันภัยรถยนต์จะยังคงให้ความคุ้มครองดังเดิมก็ตาม ยกตัวอย่างกรณีที่ทำผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ เช่น รถชื่อเรา คนอื่นขับรถยนต์คันที่เอาประกันจนประสบอุบัติเหตุ แถมยังเป็นฝ่ายผิดด้วย ในส่วนนี้ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก มากถึง 8,000 บาท ต่อความเสียหายดังนี้

6,000 บาท สำหรับความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยจากการชน คว่ำ
2,000 บาท สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก
จะเห็นได้ว่าทั้งข้อดีและข้อเสียของประกันระบุคนขับ มีเหตุผลมารองรับที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นคุณต้องลองชั่งน้ำหนักว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด ในกรณีที่มีคนอื่นมาขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุ สามารถยอมรับค่าเสียหายส่วนแรกที่เกิดขึ้นได้มั้ย แต่ถ้าหากใช้รถคนเดียว หรือใช้กันเองภายในครอบครัว การระบุชื่อคนขับอาจจะตอบโจทย์มากกว่า เป็นต้น

 
เรารวมเทคนิคลดเบี้ยประกันรถ นอกจากเลือกแผนระบุผู้ขับขี่ มีอะไรอีกบ้าง?
หากยังอยากได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่เบี้ยประกันที่ราคาดีกว่า นอกจากประกันรถบุผู้ขับขี่แล้วจะประหยัดเบี้ยได้ยังไงบ้าง แน่นอนว่าเราไม่แนะนำให้ลดทุนประกันหรือลดความคุ้มครอง เพราะ 4 เทคนิคที่นำมาจะช่วยลดเบี้ยแต่ยังคุ้มครองสูง ดังนี้

ส่วนลดประวัติดี หากขับดี ไม่ชนโดยเป็นฝ่ายผิด คุณจะได้รับส่วนลดประวัติดีสะสมในแต่ละปี ซึ่งสามารถลดเบี้ยสูงสุด 50%
การเลือกค่าเสียหายส่วนแรก เลือกค่าเสียหายส่วนแรกสูงจะช่วยลดเบี้ยประกันลง แต่ต้องประเมินว่าหากเกิดรถชนจะสามารถจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกที่เราเลือกไว้ได้
ติดกล้องหน้ารถ ที่เราติดกล้องหน้ารถ 
แผนผู้ขับขี่ของเรา มีกี่แผน อะไรบ้าง?
แผนผู้ขับขี่ของเรามีทั้งหมด 4 แผนด้วยกัน สามารถเลือกเปรียบเทียบแผนประกันได้ และการเลือกของคุณล้วนส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันตามกันไป ยิ่งแผนยืดหยุ่นมากเท่าไหร่ ค่าเบี้ยจะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น แต่ให้ความคุ้มครองที่อุ่นใจมากกว่าเช่นเดียวกัน ว่าแล้วไปดูรายละเอียดของแต่ละแผนพร้อม ๆ กันเลย


1. แผนผู้ขับขี่ระบุชื่อ
แผนผู้ขับขี่ระบุชื่อ ถือเป็นแผนประกันที่ช่วยให้คุณประหยัดได้มากที่สุด แถมยังแตกต่างจากแผนระบุผู้ขับขี่จากค่ายอื่น ๆ ตรงที่สามารถระบุชื่อผู้ขับขี่สูงสุด 4 คน โดยจะคุ้มครองแบบเต็มรูปแบบเฉพาะผู้ขับขี่ที่ถูกระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น หากเกิดอุบัติเหตุโดยที่ผู้ขับขี่ไม่มีชื่ออยู่ในกรมธรรม์อาจไม่ได้รับความคุ้มครอง

2. แผนผู้ขับขี่อายุ 30 ปีขึ้นไป
แผนผู้ขับขี่อายุ 30 ปีขึ้นไปจะยืดหยุ่นกว่าแผนผู้ขับขี่ระบุชื่อ และตามมาด้วยค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าเล็กน้อย โดยไม่ว่าใครที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป แม้ว่าจะไม่มีชื่อในกรมธรรม์ประกันภัยก็ยังสามารถขับขี่รถยนต์ของคุณได้ แต่คุณยังจำเป็นจะต้องระบุผู้ขับขี่หลักที่ขับรถเป็นส่วนใหญ่ไว้ด้วย หากผู้ขับขี่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี และไม่ใช่ผู้ขับขี่หลัก แผนประกันนี้จะไม่ให้ความคุ้มครอง เนื่องจากผิดเงื่อนไขกรมธรรม์

3. แผนผู้ขับขี่อายุ 25 ปีขึ้นไป
แผนผู้ขับขี่อายุ 25 ปีขึ้นไปยืดหยุ่นกว่าแผนผู้ขับขี่อายุ 30 ปีขึ้นไป และแน่นอนว่าค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่าเล็กน้อยเช่นเดียวกัน ในส่วนของเงื่อนไขการให้ความคุ้มครองจะไม่ต่างกันมากนัก หากคนขับไม่ใช่เจ้าของรถ เคลมประกันได้ไหม บอกเลยว่าได้ หากคนขับมีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป แต่ในทางกลับกันหากอายุน้อยกว่าแบบนี้ประกันก็ไม่คุ้มครอง

4. แผนผู้ขับขี่ไม่ระบุชื่อ
แผนผู้ขับขี่ไม่ระบุชื่อ เป็นแผนประกันภัยรถยนต์จากเราที่ยืดหยุ่นมากที่สุดและมีราคาสูงที่สุด กรณีคนขับไม่ใช่เจ้าของรถมาขับรถ ประกันก็คุ้มครอง โดยจะให้ความคุ้มครองต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ว่าใครจะเป็นผู้ขับขี่ก็ตาม แต่คุณยังต้องระบุผู้ขับขี่หลักในกรมธรรม์

สอบถามเพื่มเติมได้ที่   
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-785