วิธีดูแลเบาะหนังรถยนต์ให้ไม่แตก ไม่ลอก อยู่กับคุณไปนานๆ
เบาะหนังรถยนต์ถือเป็นจุดสำคัญที่ช่วยเพิ่มความหรูหราและความสบายในการขับขี่ แต่หลายคนเจอปัญหาเบาะหนังแตก ลอก หรือซีดจางเร็วกว่าที่ควร สาเหตุหลักมาจากการใช้งานและการดูแลรักษาที่ไม่ถูกวิธี
บทความนี้จะพาคุณมารู้จัก สาเหตุ วิธีป้องกัน และเทคนิคการดูแลเบาะหนังให้สวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ
สาเหตุที่ทำให้เบาะหนังแตกและลอก
สาเหตุ | รายละเอียด |
แสงแดดและความร้อน | ความร้อนจากแสงแดดทำให้ความชื้นในหนังระเหยออก ทำให้หนังแห้ง แตก และแข็งตัว |
ความชื้นสะสม | เหงื่อหรือความชื้นจากเสื้อผ้าอาจทำให้เกิดเชื้อรา และทำให้หนังเสื่อมสภาพเร็วขึ้น |
สารเคมีรุนแรง | การใช้สารทำความสะอาดที่มีฤทธิ์แรงเกินไป เช่น แอลกอฮอล์หรือเบนซิน ทำลายผิวหนัง |
การเสียดสีบ่อยครั้ง | การนั่งลงหรือถูไถของวัตถุแข็งบนเบาะ ทำให้ผิวหนังสึกกร่อนและบางลง |
การละเลยการบำรุง | หนังต้องการการเติมความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ หากไม่บำรุงจะทำให้แห้งและแตกง่าย |
วิธีดูแลเบาะหนังให้ไม่แตกและยืดอายุการใช้งาน1. หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
- ติดฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูง เพื่อป้องกันรังสี UV ที่ทำร้ายหนัง
- ใช้ม่านบังแดด เมื่อจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานาน
2. ทำความสะอาดเบาะอย่างถูกวิธี
- ใช้ ผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่มๆ เช็ดฝุ่นออกจากเบาะเป็นประจำ
- เลือกใช้ น้ำยาทำความสะอาดเบาะหนังเฉพาะ หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกหรือสารเคมีรุนแรง
- ทำความสะอาดเดือนละครั้ง หรือบ่อยขึ้นหากใช้งานหนัก
3. เติมความชุ่มชื้นให้เบาะ (Conditioning)
- ใช้ ครีมบำรุงเบาะหนัง (Leather Conditioner) ทุก 3-6 เดือน
- ทาครีมบางๆ แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้ทั่วเพื่อให้หนังนุ่ม ไม่แห้งแตก
4. ป้องกันการเสียดสีและคราบ
- หลีกเลี่ยงการวางของมีคมหรือแข็งบนเบาะ
- ระวังคราบจากอาหารและเครื่องดื่ม หากหกควรเช็ดทันทีด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ
5. ตรวจสอบและซ่อมแซมรอยแตกเล็กๆ ทันที
- ใช้ชุดซ่อมหนังสำหรับรอยแตกเล็กๆ เพื่อป้องกันการลุกลาม
- หากมีรอยแตกใหญ่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านเบาะหนัง
ตารางสรุปการดูแลเบาะหนังอย่างเป็นระบบ
ขั้นตอน | รายละเอียด | ความถี่แนะนำ |
เช็ดฝุ่น | ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดเบาะ | ทุกสัปดาห์ |
ทำความสะอาดเบาะ | ใช้น้ำยาสำหรับเบาะหนัง เช็ดอย่างอ่อนโยน | เดือนละครั้ง |
บำรุงด้วยครีม (Conditioner) | ทาครีมบำรุงหนังเพื่อเติมความชุ่มชื้น | ทุก 3-6 เดือน |
ป้องกันแสงแดด | ติดฟิล์มกรองแสง-ใช้ม่านบังแดด | ทุกครั้งเมื่อจอดกลางแจ้ง |
ตรวจเช็ครอยแตก | ตรวจสอบรอยแตกและซ่อมแซมทันที | ทุก 6 เดือน |
เคล็ดลับเพิ่มเติม
เลือก Leather Conditioner ที่ไม่มีซิลิโคนหรือแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้หนังแห้งเร็วขึ้น
หากไม่มั่นใจในการทำความสะอาดเอง ควรใช้บริการ Car Detailing เพื่อดูแลเบาะอย่างมืออาชีพปีละครั้ง
สรุป
การดูแลเบาะหนังไม่ยาก แค่คุณทำตามขั้นตอนข้างต้นอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เบาะสวยเหมือนใหม่ นุ่ม ไม่แตก ไม่ลอก และอยู่กับคุณไปได้อีกหลายปี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์
096-192-9698