ล้างแอร์รถยนต์บ่อยแค่ไหนดี? รู้ไว้ไม่เปลืองเงินและยืดอายุแอร์
แอร์รถยนต์เป็นอีกหนึ่งระบบสำคัญที่ทำให้การขับขี่สบายขึ้น แต่ถ้าปล่อยให้สกปรก ไม่ล้างตามรอบเวลา นอกจากกลิ่นอับ เชื้อโรคสะสมแล้ว ยังเสี่ยงให้ระบบแอร์พังเร็วขึ้นด้วย
แต่คำถามคือ... ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหนถึงจะพอดี?
สัญญาณเตือนว่าควรล้างแอร์
✅ มีกลิ่นอับชื้นออกมาจากช่องแอร์
✅ ลมแอร์ออกเบาลงแม้ปรับแรงสุด
✅ มีเสียงดังผิดปกติเมื่อเปิดแอร์
✅ แอร์ไม่เย็นหรือเย็นช้ากว่าปกติ
✅ ใช้งานรถในพื้นที่ฝุ่นเยอะหรือมีสัตว์เลี้ยง
ตารางแนะนำความถี่ในการล้างแอร์รถยนต์
ประเภทการใช้งานรถ | ความถี่ล้างแอร์ที่แนะนำ | หมายเหตุ |
ใช้งานทั่วไป (ขับในเมือง) | ทุก 12 เดือน หรือ 20,000 กม. | ล้างตู้แอร์พร้อมเช็กระบบระบายอากาศ |
ใช้งานหนัก (ฝุ่นเยอะ, ต่างจังหวัด) | ทุก 6-8 เดือน หรือ 10,000 กม. | เพราะฝุ่นละอองสะสมไวในกรองแอร์และตู้แอร์ |
มีสัตว์เลี้ยงในรถ | ทุก 6 เดือน | ขนสัตว์ทำให้กรองอากาศอุดตันเร็วขึ้น |
มีอาการแพ้/โรคทางเดินหายใจ | ทุก 6 เดือน | ลดการสะสมเชื้อราและแบคทีเรียในระบบแอร์ |
ล้างแอร์แต่ละครั้งทำอะไรบ้าง?
1. เปลี่ยนกรองแอร์ (Cabin Air Filter) – กรองฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากอากาศที่เข้ามาในรถ
2. ล้างตู้แอร์ (Evaporator Cleaning) – ขจัดคราบฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรียในคอยล์เย็น
3. ทำความสะอาดช่องแอร์และท่อทางเดินอากาศ – เพื่อให้ลมแอร์สะอาด ไร้กลิ่นอับ
ถ้าไม่ล้างแอร์จะเกิดอะไรขึ้น?- กลิ่นอับเหม็นในรถ
- เชื้อโรคสะสม เสี่ยงโรคทางเดินหายใจ
- แอร์ไม่เย็น เปลืองน้ำมัน เพราะคอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก
- ค่าใช้จ่ายซ่อมแอร์สูงขึ้น (เปลี่ยนตู้แอร์หลักหมื่น!)
เคล็ดลับยืดอายุแอร์รถ- ปิดแอร์ก่อนดับเครื่องสัก 2-3 นาที ให้ลมเป่าไล่ความชื้น
- เปลี่ยนกรองแอร์ทุก 6 เดือน
- ไม่ควรสูบบุหรี่หรือกินอาหารในรถเพราะจะทำให้แอร์มีกลิ่น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 
โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์ 096-192-9698