รถยนต์ไฟฟ้า ประกันแตกต่างจากรถทั่วไปยังไง?

สรุปทุกข้อที่ควรรู้ ก่อนซื้อหรือทำประกัน EV (Electric Vehicle)

ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าต้องมีประกันเฉพาะทาง?
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีโครงสร้างและเทคโนโลยีแตกต่างจากรถน้ำมัน เช่น แบตเตอรี่ลิเธียม, ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า, และซอฟต์แวร์ควบคุม ทำให้การซ่อมและค่าใช้จ่ายต่างจากรถทั่วไป บริษัทประกันหลายแห่งจึงออกแบบกรมธรรม์เฉพาะสำหรับ EV

ตารางเปรียบเทียบ “ประกันรถยนต์ไฟฟ้า” VS “รถยนต์น้ำมัน”

จุดที่แตกต่างของประกัน EV ที่ควรรู้
✅ 1. เบี้ยประกันสูงกว่าเล็กน้อย
เนื่องจากค่าอะไหล่และค่าซ่อม EV แพงกว่า เช่น แบตเตอรี่ลูกหนึ่งราคาหลักแสน-ล้านบาท
แต่หลายบริษัทเริ่มลดราคาเบี้ยลงเพื่อจูงใจตลาด EV

✅ 2. ความคุ้มครองแบตเตอรี่
บางบริษัทประกัน ครอบคลุมความเสียหายของแบตเตอรี่ ในกรณีไฟไหม้ น้ำท่วม หรืออุบัติเหตุ แต่ไม่ครอบคลุมกรณีเสื่อมสภาพตามอายุ

✅ 3. ซ่อมได้เฉพาะศูนย์ที่มีช่างเทคนิค EV
เนื่องจากต้องใช้เครื่องมือและช่างที่ผ่านการอบรมเฉพาะทาง
ก่อนซื้อควรถามว่าบริษัทประกันมีศูนย์ซ่อม EV ในเครือที่ไหนบ้าง?

✅ 4. ความคุ้มครองไฟฟ้าลัดวงจร
ประกันรถ EV หลายบริษัทครอบคลุมกรณีไฟฟ้าลัดวงจร และไฟไหม้แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นความเสี่ยงเฉพาะของ EV

✅ 5. บริการพ่วงแบต-ชาร์จไฟฉุกเฉิน
บางบริษัทแถมบริการ “Mobile Charging” ช่วยชาร์จไฟฉุกเฉินหากแบตหมดกลางทาง

สรุปง่ายๆ
รถน้ำมัน: ประกันทั่วไป เบี้ยถูกกว่า ศูนย์ซ่อมเยอะ
รถไฟฟ้า: เบี้ยสูงกว่าเล็กน้อย แต่คุ้มครองครบวงจรสำหรับ EV และมีบริการเฉพาะทาง

 Tips ก่อนทำประกัน EV
✅ ตรวจสอบว่าคุ้มครองแบตเตอรี่หรือไม่
✅ เช็คศูนย์ซ่อมในเครือของบริษัทประกัน
✅ เลือกแผนที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินสำหรับ EV

“ขับ EV อุ่นใจ ต้องเลือกประกันที่เข้าใจรถไฟฟ้า”
อยากได้แผนประกัน EV ที่ราคาดี+คุ้มครองครบ ทักมาได้เลย!


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  
โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์ 096-192-9698