สัญญาณเตือนว่าหม้อน้ำเริ่มมีปัญหา: อย่ารอจนรถพังกลางทาง
หม้อน้ำ (Radiator) คือหัวใจของระบบหล่อเย็นในรถยนต์ ทำหน้าที่ระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ หากหม้อน้ำมีปัญหา อาจส่งผลให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป พังเสียหาย และถึงขั้น “ยกเครื่อง” ได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายไม่ใช่เรื่องเล็ก!
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ เราควร “จับสัญญาณเตือน” ที่บ่งบอกว่าหม้อน้ำกำลังมีปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
7 สัญญาณเตือนว่าหม้อน้ำเริ่มมีปัญหา
ลำดับ | สัญญาณที่พบเจอ | สาเหตุที่เป็นไปได้ | สิ่งที่ควรทำ |
1 | เข็มความร้อนขึ้นสูงกว่าปกติ | หม้อน้ำอุดตัน / น้ำหล่อเย็นพร่อง | จอดรถทันที รอให้เย็น ตรวจระดับน้ำ |
2 | มีไอน้ำออกจากฝากระโปรง | น้ำในหม้อน้ำเดือด / ระบบหล่อเย็นรั่ว | ห้ามเปิดหม้อน้ำทันที รอเครื่องเย็นก่อน |
3 | พบคราบน้ำหรือคราบสนิมรอบหม้อน้ำ | หม้อน้ำรั่วเล็กน้อย / ซีลเสื่อม | นำรถเข้าศูนย์ตรวจสอบทันที |
4 | น้ำหล่อเย็นพร่องเร็วกว่าปกติ | รั่วตามจุดต่างๆ ของระบบหล่อเย็น | เติมน้ำหล่อเย็นชั่วคราว แล้วหาช่าง |
5 | มีเสียงดังแปลกๆ จากบริเวณหม้อน้ำ | พัดลมหรือปั๊มน้ำมีปัญหา | ฟังเสียงผิดปกติแล้วรีบนำไปตรวจ |
6 | พัดลมหม้อน้ำไม่หมุน | มอเตอร์พัดลมเสีย / รีเลย์พัง | รีบเปลี่ยนชิ้นส่วนก่อนเครื่องร้อนจัด |
7 | สีของน้ำหล่อเย็นเปลี่ยน (เช่น ขุ่น/ดำ/สนิม) | น้ำหล่อเย็นเสื่อมคุณภาพ / มีสนิม | เปลี่ยนน้ำใหม่ และล้างระบบหล่อเย็น |
ทำไมถึงห้ามมองข้ามปัญหาหม้อน้ำ?เพราะความร้อนที่เกินปกติจะส่งผลโดยตรงต่อ...
- ฝาสูบโก่ง / แตก
- ปะเก็นฝาสูบรั่ว
- เครื่องยนต์ดับกลางทาง
- ค่าใช้จ่ายซ่อมสูงถึงหลักหมื่น–แสน
✅
วิธีป้องกันปัญหาหม้อน้ำ1. ตรวจระดับน้ำหล่อเย็นสัปดาห์ละครั้ง
2. หมั่นล้างหม้อน้ำและเปลี่ยนน้ำทุก 1–2 ปี
3. ใช้น้ำหล่อเย็นแท้ ห้ามใช้น้ำเปล่าแทน
4. หมั่นฟังเสียงผิดปกติจากเครื่องยนต์
5. ตรวจเช็กระบบพัดลมหม้อน้ำเป็นระยะ
สรุปหม้อน้ำอาจดูเหมือนเป็นเพียง “ถังน้ำ” ธรรมดา แต่แท้จริงแล้วมันคือหัวใจที่คอยปกป้องเครื่องยนต์ของคุณจากความร้อนมหาศาล อย่ารอให้มีควันพุ่งจากหน้ารถ...ก่อนจะหันกลับมาสนใจมัน!
หากคุณพบ 1 ใน 7 สัญญาณเตือนที่กล่าวมา รีบตรวจสอบหรือปรึกษาช่างทันที เพื่อยืดอายุรถของคุณ และไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์ “รถเสียกลางทาง” ที่ไม่มีใครอยากเจอ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์
096-192-9698