รถโดนต้นไม้ล้มทับ เคลมประกันได้หรือไม่ และใครต้องรับผิดชอบ?

136 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รถโดนต้นไม้ล้มทับ เคลมประกันได้หรือไม่ และใครต้องรับผิดชอบ?

ไขข้อสงสัย! รถโดนต้นไม้ล้มทับ เคลมประกันได้หรือไม่ และใครต้องรับผิดชอบ?
อุบัติเหตุจาก “ต้นไม้ล้มทับรถ” มักเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด โดยเฉพาะช่วงฝนตก ลมแรง หรือพายุเข้า หลายคนไม่แน่ใจว่าแบบนี้ ประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่ และใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหาย? บทความนี้จะพาไปไขคำตอบทั้งหมด
 
1. สาเหตุที่ต้นไม้ล้มทับรถมักเกิดขึ้น
  • พายุ ฝนตกหนัก ลมแรง → ต้นไม้สูงและมีรากตื้นหักล้มง่าย
  • ต้นไม้เก่า / ไม่ได้รับการดูแลตัดแต่ง → กิ่งเปราะ, รากเน่า
  • ที่จอดรถใกล้ต้นไม้ใหญ่หรือพื้นที่เสี่ยง → เพิ่มโอกาสโดนทับโดยตรง

2. ประกันรถยนต์คุ้มครองหรือไม่?
  • ประกันชั้น 1
    ✅ คุ้มครองแน่นอน
    ครอบคลุม “ภัยธรรมชาติ” เช่น ต้นไม้ล้ม, พายุ, ฝน, น้ำท่วม
    ประกันจะชดใช้ค่าเสียหายให้ ตามทุนประกันหรือค่าซ่อมจริง
    ข้อยกเว้น:
    ไม่คุ้มครองกรณี จงใจจอดในพื้นที่อันตรายโดยประมาทอย่างร้ายแรง
    หากผู้ขับขี่เมาสุรา หรือใช้รถผิดประเภท

  • ประกันชั้น 2+, 3+, 3
    ❌ ไม่คุ้มครองภัยธรรมชาติ (รวมถึงต้นไม้ล้ม)
    เพราะถือว่าเป็น “เหตุสุดวิสัย” ที่ไม่เกี่ยวกับการชนหรือมีคู่กรณี
    แต่บางบริษัทมี แพ็กเกจเสริม “ภัยธรรมชาติ” ที่สามารถเพิ่มความคุ้มครองได้ เช่น รถหาย–ไฟไหม้–น้ำท่วม–ต้นไม้ล้ม

  • พ.ร.บ. รถยนต์ (ประกันภาคบังคับ)
    ❌ ไม่คุ้มครองตัวรถ
    พ.ร.บ. คุ้มครองเฉพาะ ชีวิตและร่างกายของผู้ประสบภัย (ผู้ขับ–ผู้โดยสาร–บุคคลภายนอก) เท่านั้น

3. แล้ว “ใครต้องรับผิดชอบ”?
หากต้นไม้อยู่ในพื้นที่เอกชน
  • เจ้าของพื้นที่หรือนิติบุคคลอาคารชุด / หมู่บ้าน / ห้างสรรพสินค้า ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย
  • หากพิสูจน์ได้ว่า ละเลยการดูแล (ไม่ตัดแต่งต้นไม้ หรือรู้ว่ามีความเสี่ยงแล้วไม่ดำเนินการ)
    หากต้นไม้อยู่ในพื้นที่ราชการ / เทศบาล
  • ต้องแจ้งหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ เช่น เทศบาล อบต. แขวงการทาง ฯลฯ
  • หากเป็น “เหตุสุดวิสัย” เช่น พายุรุนแรง → หน่วยงานไม่ต้องรับผิด แต่ประกันชั้น 1 จะชดใช้
  • แต่ถ้าเป็นกรณี ต้นไม้ทรุด ล้ม เพราะขาดการดูแลบำรุงรักษา → สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากหน่วยงานได้

4. ขั้นตอนการเคลมกรณี “ต้นไม้ล้มทับรถ”
  • ถ่ายรูปหลักฐานทันที
    ตัวรถ, บริเวณโดยรอบ, ต้นไม้ที่ล้ม, และความเสียหาย
  • แจ้งตำรวจท้องที่
    ให้ลงบันทึกประจำวัน เพื่อใช้เป็นหลักฐานยื่นเคลม
  • แจ้งบริษัทประกันภัย
    โทรแจ้งทันที พร้อมส่งภาพหลักฐานให้เจ้าหน้าที่
  • รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ/ประเมินค่าเสียหาย
    บริษัทประกันจะส่งพนักงานสำรวจ (Surveyor) มาดูหน้างาน
  • ซ่อมรถตามอู่/ศูนย์ที่กำหนด
    หากคุ้มครองชั้น 1 → ประกันรับผิดชอบค่าซ่อมทั้งหมด
  • เรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม (ถ้ามี)
    หากเป็นความบกพร่องของเจ้าของพื้นที่ เช่น ห้าง, เทศบาล

5. เอกสารที่ต้องใช้ในการเคลม
  • บันทึกประจำวันจากตำรวจ
  • รูปถ่ายความเสียหาย (ก่อนซ่อม)
  • สำเนาทะเบียนรถ
  • กรมธรรม์ประกันภัย
  • ใบเสนอราคาค่าซ่อม / ใบรับรองจากอู่

6. ตารางสรุปความคุ้มครองกรณี “ต้นไม้ล้มทับรถ”
ประเภทประกันคุ้มครองไหมเงื่อนไขผู้รับผิดชอบ
ชั้น 1✅ คุ้มครองครบภัยธรรมชาติทุกกรณีบริษัทประกันจ่าย
ชั้น 2+, 3+, 3❌ ไม่คุ้มครองยกเว้นซื้อความคุ้มครองภัยธรรมชาติเพิ่มเจ้าของพื้นที่ / ผู้ครอบครอง
พ.ร.บ.❌ ไม่คุ้มครองรถคุ้มครองเฉพาะผู้บาดเจ็บ/เสียชีวิต
 
7. เคล็ดลับป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
  • หลีกเลี่ยงจอดรถใต้ต้นไม้ใหญ่ โดยเฉพาะช่วงฝนตก ลมแรง
  • เลือกที่จอดรถในอาคารหรือพื้นที่เปิดโล่งห่างจากต้นไม้
  • ตรวจสอบพื้นที่จอดรถใกล้บ้านว่ามีต้นไม้สูงหรือเอนตัวผิดปกติหรือไม่
  • หากจอดในพื้นที่เอกชน เช่น ห้างหรือคอนโด ให้ตรวจสอบ “เงื่อนไขความรับผิดชอบ” ของนิติบุคคล
  • ทำประกัน ชั้น 1 หรือแผนที่มีภัยธรรมชาติ เพื่อให้ครอบคลุมกรณีไม่คาดคิด

สรุป
  • รถโดนต้นไม้ล้มทับ → ประกัน ชั้น 1 คุ้มครองครบ ส่วนชั้นอื่นคุ้มครองเฉพาะกรณีซื้อภัยธรรมชาติเพิ่ม
  • หากเกิดเหตุ ให้รีบ ถ่ายภาพ, แจ้งตำรวจ, แจ้งบริษัทประกัน
  • ตรวจสอบว่า ต้นไม้อยู่ในพื้นที่ใครรับผิดชอบ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม
  • ที่สำคัญ: เลือกแผนประกันที่มี ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ เพื่อป้องกันความเสียหายไม่คาดคิดในอนาคต
วางแผนไว้ก่อนดีกว่าแก้ทีหลัง เพราะความเสียหายจาก “ต้นไม้ล้มทับรถ” มักเกิดในวินาทีที่เราไม่ทันตั้งตัว 
 
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 
โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์ 096-192-9698

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้