ทำไมคนใช้รถถึงนิยมประกันชั้น 2+ มากขึ้น?
ประกันรถยนต์ ชั้น 2+ กำลังเป็นตัวเลือกยอดฮิต เพราะ “คุ้มครองเกือบครบเหมือนชั้น 1 แต่ประหยัดกว่า” โดยเฉพาะรถที่อายุเริ่มมากขึ้นหรือเจ้าของรถต้องการคุมงบ แต่ยังอยากได้คุ้มครองกรณีชนอย่างมั่นใจ
1) ชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง (ภาพรวมเข้าใจง่าย)
- รถเราเสียหายจากการชนกับยานพาหนะทางบก (มี/ไม่มีคู่กรณี ขึ้นกับเงื่อนไขแต่ละบริษัท)
- ทรัพย์สินและร่างกายของบุคคลภายนอก (คู่กรณี)
- รถหาย/ไฟไหม้ (ส่วนใหญ่รวมอยู่ใน 2+ แท้)
- อุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) และค่ารักษาพยาบาล สำหรับคนขับ/ผู้โดยสาร (แล้วแต่แผน)
หมายเหตุ: น้ำท่วม/ภัยธรรมชาติ บางแผนรวม บางแผนต้องซื้อเพิ่ม—ควรเช็กให้ชัด
2) ทำไมคนถึงเลือก 2+ มากขึ้น (เหตุผลหลัก)- ราคาน่าคบกว่า – เบี้ยโดยทั่วไปถูกกว่า “ชั้น 1” อย่างมีนัยสำคัญ แต่คุ้มครองการชนได้ใกล้เคียง
- เพียงพอต่อความเสี่ยงส่วนใหญ่ – สำหรับผู้ขับมีวินัย/ชนไม่บ่อย การคุ้มครองกรณี “ชนรถบนถนน” คือโจทย์หลักอยู่แล้ว
- เหมาะกับรถอายุมากขึ้น – รถ 4–10 ปี (โดยประมาณ) บางค่ายไม่รับชั้น 1 หรือเบี้ยชั้น 1 สูงเกินจำเป็น → 2+ คือจุดลงตัว
- ปรับแต่งได้ – เลือกทุนประกัน, วงเงินคนบนรถ, เพิ่มคุ้มครองน้ำท่วมหรือบริการฉุกเฉิน 24 ชม. ได้ตามงบ
- เครือข่ายซ่อมดีขึ้น – หลายบริษัทมีอู่คุณภาพ/ซ่อมห้างบางรายการ และระบบเคลมที่รวดเร็วกว่าเดิม
3) ต่างจาก “ชั้น 1” และ “3+” อย่างไร?
| ประเด็น | ชั้น 1 | ชั้น 2+ | ชั้น 3+ |
| รถเราชน/เสียหาย | ✅ ครบทุกกรณี (แม้ชนเสา/กำแพง) | ✅ เมื่อชนกับยานพาหนะทางบก (ตามเงื่อนไข) | ✅ เมื่อชนกับยานพาหนะทางบก |
| รถหาย/ไฟไหม้ | ✅ รวม | ✅ ส่วนใหญ่รวมใน 2+ แท้ | ❌ ส่วนใหญ่ไม่รวม |
| ภัยธรรมชาติ (น้ำท่วม/พายุ) | ✅ ส่วนใหญ่รวม | บางแผนรวม/บางแผนซื้อเพิ่ม | ❌ โดยมากไม่รวม |
| ราคาค่าเบี้ย | สูงสุด | กลาง (คุ้มค่า) | ต่ำสุดในสามตัวนี้ |
| ความยืดหยุ่น/คุมงบ | ปานกลาง | สูง | สูง แต่คุ้มครองน้อยกว่า |
| เหมาะกับใคร | รถใหม่–เสี่ยงสูง–อยากครบ | รถ 4–10 ปี/งบจำกัดแต่ยังอยากคุ้มครองการชน | รถสำรอง/วิ่งน้อย/เน้นคุ้มค่าที่สุด |
4) 2+ เหมาะกับใครบ้าง?
- เจ้าของรถ อายุ 4–10 ปี ที่อยากลดเบี้ยจากชั้น 1 แต่ยังอยากคุ้มครอง “รถเรา” หากชน
- คนขับที่ มีวินัย/มีประวัติเคลมน้อย และรับความเสี่ยงเรื่อง “เหตุที่ไม่ใช่การชน” ได้บ้าง
- ผู้ที่ จอดรถในที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงน้ำท่วมบ่อย หรือพร้อมซื้อคุ้มครองภัยธรรมชาติเพิ่มเล็กน้อย
- คนต้องการ ความคุ้มครองคนบนรถ (PA/ค่ารักษา) ในระดับพอดี คุมงบได้
5) ตัวอย่างเหตุการณ์จริง (เห็นภาพชัด)- เฉี่ยวชนรถคันหน้าในเมือง → 2+ เคลมซ่อมรถเรา + ทรัพย์สินคู่กรณี
- โดนชนแล้วหนี (มีเงื่อนไขแผน) → หลายเจ้า 2+ ครอบคลุม (ต้องดูหลักฐาน/บันทึกประจำวัน)
- รถหายจากลานจอด → 2+ แท้ส่วนใหญ่คุ้มครองตามทุน
- น้ำท่วมครึ่งล้อ → บางแผนจ่าย บางแผนต้องซื้อ “ภัยธรรมชาติ” เพิ่ม (ควรถามชัด ๆ)
6) ข้อจำกัดที่ควรรู้ (จะได้ไม่พลาด)- ชนสิ่งไม่มีชีวิต (เช่น เสา/กำแพง) โดยทั่วไป 2+ ไม่คุ้มครอง ต่างจากชั้น 1
- ภัยธรรมชาติ อาจ ไม่รวม ใน 2+ ทุกแผน → ถ้าบ้าน/ที่ทำงานอยู่โซนเสี่ยง ควรเพิ่มความคุ้มครอง
- เงื่อนไข ชนแล้วหนี ของบางบริษัทต้องมีหลักฐานชัดเจน (เช่น กล้อง/บันทึกความ)
- รถแต่ง/ดัดแปลง ต้องแจ้งในกรมธรรม์ มิฉะนั้นเสี่ยง “เคลมไม่ได้” ในบางเหตุ
7) เลือก 2+ ยังไงให้ “คุ้มสุด”- เช็กคำว่า “2+ แท้” – ต้องรวม รถหาย/ไฟไหม้ และ ซ่อมรถเราเมื่อชนยานพาหนะทางบก
- ขอเอกสารเงื่อนไขสั้นๆ – ถามให้ชัด: “ชนแล้วหนีจ่ายไหม?”, “ต้องมีหลักฐานแบบไหน?”, “น้ำท่วมรวมไหม?”
- ตั้งทุนประกันให้เหมาะ (80–100% ของมูลค่าตลาด) – ทุนต่ำไป: จ่ายไม่เต็ม, ทุนสูงไป: เบี้ยบวมเกินจำเป็น
- เลือกระบบซ่อม – ถ้าห่วงคุณภาพอะไหล่ เลือกอู่เครือข่ายที่รีวิวดี/ใกล้บ้านเพื่อลดเวลาซ่อม
- ดูบริการฉุกเฉิน 24 ชม. – รถยก/พ่วงแบต/เปลี่ยนยาง เพิ่มความสบายยามเกิดเหตุ
- พิจารณา Deductible (ค่าเสียหายส่วนแรก) – รับได้ระดับหนึ่งเพื่อกดเบี้ยให้ถูกลง หากขับรอบคอบ
8) ตารางสรุป “เหตุผลที่ 2+ ได้รับความนิยม”| เหตุผล | อธิบายสั้น | ประโยชน์กับผู้ใช้ |
| คุ้มค่าต่อราคา | จ่ายน้อยกว่าชั้น 1 แต่คุ้มครองการชนได้ | ลดค่าเบี้ยชัดเจน |
| ครอบคลุมโจทย์จริง | ส่วนใหญ่เคลมเกิดจาก “ชนรถบนถนน” | ใช้งานได้ตรง Pain Point |
| ยืดหยุ่น | ปรับทุน/เพิ่มภัยธรรมชาติ/เลือกอู่ได้ | จัดแพ็กให้เข้ากับงบ |
| เหมาะกับรถอายุมากขึ้น | ชั้น 1 เริ่มแพง/บางค่ายไม่รับ | ได้ความคุ้มครองสำคัญต่อไป |
| เครือข่ายซ่อมดีขึ้น | อู่เครือข่าย/งานซ่อมมาตรฐาน | เวลาซ่อมสั้นลง–คุมคุณภาพได้ |
9) Q&A ยอดฮิตเกี่ยวกับ 2+
ถาม: 2+ เคลม “ชนแล้วหนี” ได้ไหม?
ตอบ: หลายบริษัทจ่าย แต่ต้องมีหลักฐาน เช่น กล้องหน้ารถ/บันทึกประจำวัน ตรวจเงื่อนไขแผนให้ชัด
ถาม: 2+ คุ้มครองน้ำท่วมไหม?
ตอบ: บางแผนรวม บางแผนต้องซื้อ “ภัยธรรมชาติ” เพิ่ม—ถ้าอยู่โซนเสี่ยงควรเพิ่มไว้
ถาม: ต่างจาก 3+ ยังไง?
ตอบ: 2+ ส่วนใหญ่ “มีรถหาย/ไฟไหม้” และวงเงินซ่อมรถเรา/ข้อกำหนดมักดีกว่า 3+ (แต่ถูกกว่าชั้น 1)
สรุปสั้น
ชั้น 2+ = จุดกึ่งกลางที่ลงตัว ระหว่าง “ความคุ้มครองที่ใช้จริง” กับ “ราคาเอื้อมถึง” เหมาะกับรถที่อายุเพิ่มขึ้นและผู้ขับที่อยากลดเบี้ย แต่ยังต้องการความอุ่นใจหากเกิดอุบัติเหตุชนบนท้องถนน
เลือกให้ถูกจุด—เช็กเงื่อนไขชนแล้วหนี, น้ำท่วม, ระบบซ่อม, และทุนประกัน—แค่นี้ก็ได้ คุ้มครองคุ้มค่า ใช้งานจริง และไม่บานปลาย ครับ ✅
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์
096-192-9698