87 จำนวนผู้เข้าชม |
5 เช็คลิตซ์ก่อนเดินทางไกลในปีใหม่นี้
1. ยางรถยนต์
สิ่งแรกที่เราควรคำนึงถึงก่อนเดินทางไกลนั่นคือยางรถยนต์ เพราะยางรถเป็นสิ่งเดียวที่สัมผัสกับผิวถนนขณะที่คุณเดินทางไกล การที่ขับรถเป็นระยะเวลานาน ทำให้ยางของเราทำงานหนักและอาจผลอันตรายให้กับเราหากไม่ดูแลเป็นอย่างดี
สิ่งแรกที่เราอาจดูเลยคือ ลายดอกยาง หรือเราเรียกๆกันว่า ดอกยางรถนั่นเอง ทริคเล็กๆที่เราสามารถนำไปใช้ได้นั่นก็คือการนำเหรียญ 5 หรือ 10 บาท ไปวางในแนวตั้ง ระหว่างดอกยาง หลังจากนั้นให้สังเกตว่าเราเห็นเหรียญของเราได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเห็นน้อยหมายความว่า ยางยังใช้งานได้อยู่ แต่ถ้าเห็นเกินครึ่งของเหรียญหรือมากกว่านั้น แนะนำให้เปลี่ยนยางก่อนออกเดินทาง เพราะยางของคุณได้ผ่านการใช้งานมาเยอะแล้ว ทริคนี่สามารถนำไปใช้กับยางทั้งหมด 4 เส้นเลย
นอกจากเรื่องดอกยาง ลมยางก็เป็นสิ่งที่สำคัญ มั่นเช็คลมยางรถบ่อยๆ ถ้าหากไม่แน่ใจว่าควรเติมลมเท่าไหร่ หรือลมยางควรอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ สามารถเช็คได้ตามข้างประตูรถได้เลย
2. แบตเตอรี่รถ
สิ่งที่เป็นฝันร้ายสำหรับนักเดินทางคือการที่จะเราจะเริ่มออกทริปแล้วแบตเตอรี่รถยนต์ของเราไม่ทำงาน หรือ รถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง การที่เราจะสามารถเช็คหรือดูง่ายๆเลยคือการที่เราลองสตาร์ทรถก่อนวันที่จะออกทริป ถ้ามีสิ่งปกติเช่น การสตาร์ทขัดข้อง สตาร์ทช้า หรือไฟในรถไม่ติดเลย แนะนำให้โทรเรียกให้ช่างมาเปลี่ยนโดยด่วน ไม่งั้นทริปของคุณอาจล่มได้ สาเหตุหลักๆเลยคืออายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถของคุณอาจเกินแล้ว แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่รถทุกๆ 3-5 ปี หรือ เร็วกว่านั้นถ้าหากพบสิ่งผิดปกติขณะสตาร์ทรถของคุณ
3. ระบบไฟรอบคัน
ระบบไฟในรถหรือรอบรถถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก และ ส่วนใหญ่หลายท่านมักมองข้าม เพราะด้วยเป็นสิ่งที่เราคิดว่ามันต้องติด มันต้องใช้ได้ แต่สิ่งเหล่านี้ก็มีอายุไข หรือ สามารถเกิดข้อผิดพลาดได้เช่นกัน การเช็คที่ง่ายที่สุดคือการที่เราเปิดไฟทุกอย่างในรถและเดินวนรอบคัน เริ่มจาก ไฟในรถ ไฟเลี้ยวทั้งหน้าและหลัง ไฟฉุกเฉิน ไฟหน้า (ไฟสูง ไฟตัดหมอก) ไฟท้าย และไฟอื่นๆที่รถของคุณมี การเช็คสิ่งเหล่านี้นอกจากทำให้คุณรู้ว่าไฟของคุณใช้ได้
4. ระบบหล่อเย็นหรือ หม้อน้ำ
ระบบทุกอย่างที่อยู่ใต้ฝากระโปรงล้วนมีความสำคัญทั้งหมด แต่ถ้าหากให้เลือกสิ่งที่เราควรมั่นเช็คนั่นคือระดับของเหลวในหม้อน้ำ ซึ่งการเช็คได้ง่ายๆเลยคือการที่เราดูระดับของเหลวให้อยู่ตามที่ตัวหม้อน้ำกำหนดไว้ ถ้าหากพอดี ต่ำกว่าระดับนิดหน่อย หรือ เกินไปนิดหน่อย นั่นถือว่าปกติ แต่ถ้าหากน้อยเกินไป แนะนำให้ซื้อน้ำยาเติมหม้อน้ำหรือ Coolant มาเติมให้ถึงระดับ
5. น้ำมันเครื่อง
ถ้าหากว่าเราพูดถึงเรื่องน้ำมันเครื่อง หลายท่านอาจมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากและเลอะเทอะ แต่จริงๆแล้วไม่จริงเลย การที่เราจะเช็คน้ำมันเครื่องสิ่งเดียวที่คุณนั่นต้องเตรียมคือผ้าเก่าๆ หรือผ้าที่เราไม่ใช้ สิ่งต่อไปคือการเตรียมรถ
รถของเราควรจอดในพื้นที่ราบ ไม่ลาดเอียง ต่อไปมองหาก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง และสามารถดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาได้เลย จากนั้นเช็ดทำความสะอาดน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดออกด้วยผ้าที่เราเตรียม หลังจากนั้น เสียบก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องคืนกลับจุดเดิม เพื่อตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องที่มีอยู่ในอ่างน้ำมันเครื่อง หลังจากนั้นคุณดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมาอีกหนึ่งครั้งเพื่อตรวจสสอบระดับน้ำมันเครื่อง ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างขีด F กับ L หรือ Max กับ Min แสดงว่าน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับปกติ ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป แนะนำให้เช็คทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ต่อหนึ่งครั้งหรืออย่างน้อยเลยคือ เดือนละครั้ง
แค่คุณทำตามเช็คลิสต์เหล่านี้การออกทริปของคุณก็หายห่วงแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์ 0961929698