วิธีเช็คแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้

11 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีเช็คแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้

     แบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญของระบบไฟในรถยนต์ ทั้งการสตาร์ทรถ ไฟหน้า ไฟเบรก และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ หากแบตเสื่อมหรือมีปัญหา รถอาจสตาร์ทไม่ติดได้เลย ดังนั้นการรู้วิธีเช็คแบตเบื้องต้นด้วยตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่ควรรู้ไว้ครับ

วิธีเช็คแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยตัวเอง
1. สังเกตอาการผิดปกติ

  • สตาร์ทรถแล้วเสียงแผ่วหรือหมุนช้า
  • ไฟหน้าสว่างน้อยกว่าปกติ
  • ระบบไฟฟ้าภายในรถเริ่มทำงานผิดปกติ
  • หากมีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม

2. ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่
  • เปิดฝากระโปรงหน้ารถ ดูที่แบตเตอรี่
  • ขั้วแบต (ขั้วบวก + และ ขั้วลบ -) ต้องแน่น ไม่มีคราบเขียวหรือขี้เกลือเกาะ
  • หากมีคราบขาว/เขียว ให้ถอดขั้ว (โดยเริ่มจากขั้วลบก่อน) แล้วทำความสะอาดด้วยน้ำร้อนหรือเบกกิ้งโซดาละลายน้ำ

3. เช็คแรงดันไฟด้วยมัลติมิเตอร์ (Multimeter)
  • ตั้งมิเตอร์ที่โหมด DCV (โวลต์กระแสตรง)
  • แตะสายสีแดงกับขั้วบวก สายสีดำกับขั้วลบ
  • หากรถ ไม่ได้สตาร์ท ค่าแรงดันควรอยู่ที่ 12.4 – 12.7 โวลต์
  • หากรถ สตาร์ทอยู่ ค่าแรงดันควรอยู่ที่ 13.7 – 14.7 โวลต์
  • หากต่ำกว่านี้ แสดงว่าแบตอ่อนหรือเริ่มเสื่อม

4. ดูอายุการใช้งาน
  • แบตเตอรี่แบบแห้งหรือแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มักมีอายุประมาณ 1.5 – 2 ปี
  • หากเลยอายุแล้วควรเปลี่ยน แม้ยังใช้งานได้ก็ตาม เพื่อความมั่นใจในการเดินทาง

เคล็ดลับดูแลแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นาน
  • ไม่เปิดไฟหน้าทิ้งไว้ขณะดับเครื่อง
  • หมั่นสตาร์ทรถ หากจอดทิ้งไว้นาน
  • ตรวจสอบระดับน้ำกลั่น (สำหรับแบตแบบเติมน้ำ)
  • ถอดขั้วแบตเมื่อต้องจอดนานเป็นเดือน

 

สรุปสั้น ๆ:
     แค่ใช้สายตา มัลติมิเตอร์ และความใส่ใจ คุณก็สามารถเช็คแบตรถยนต์ด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ เพื่อความมั่นใจทุกครั้งก่อนเดินทาง

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม   
โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์  096-192-9698

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้