การซื้อรถมือสอง ต้องระวังเรื่อง "รถจมน้ำ" เพราะแม้ภายนอกจะดูใหม่ แต่ปัญหาภายในอาจหนัก ทั้งระบบไฟ เครื่องยนต์ หรือสนิมที่ซ่อนอยู่ หากไม่เช็กให้ดี คุณอาจต้องเสียเงินซ่อมไม่จบสิ้น
เรามาดูกันว่า “สัญญาณของรถที่เคยจมน้ำ” มีอะไรบ้าง พร้อมวิธีตรวจสอบง่าย ๆ ครับ
จุดที่ควรตรวจสอบเป็นพิเศษ
จุดตรวจสอบ | สิ่งที่ต้องดู | ความผิดปกติที่บ่งชี้ว่าจมน้ำ |
พรม/พื้นรถ | ยกพรมดูด้านล่าง | มีคราบดิน กลิ่นอับ ชื้น หรือมีสนิม |
เบาะรถ | ด้านล่างหรือโครงเบาะ | สนิม ผุ กลิ่นเหม็นอับ หรือหุ้มเบาะใหม่ทั้งหมด |
ช่องแอร์ | ดูภายในช่องลม | มีกลิ่นอับหรือคราบฝุ่นโคลน |
สายไฟ/กล่องควบคุม | เปิดฝากระโปรงหน้าหรือใต้เบาะ | สนิม คราบน้ำ หรือเทปพันสายไฟเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด |
ห้องเครื่อง | ใต้ฝาสูบ ขั้วแบต | คราบน้ำ คราบสนิม มีการทำความสะอาดแบบผิดปกติ |
ไฟหน้า/ไฟท้าย | ดูด้านในโคมไฟ | มีไอน้ำ คราบตะไคร่ หรือฝ้าด้านใน |
ล้อและช่วงล่าง | ยกดูใต้ท้องรถ | มีคราบดินโคลนฝังแน่น สนิม หรืออุปกรณ์ใหม่ผิดปกติ |
กลิ่นภายในรถ | เปิดรถทิ้งไว้สักพัก | กลิ่นอับ เหม็นอับเหมือนตู้เก่า หรือใช้สเปรย์ดับกลิ่นกลบ |
วิธีสังเกตแบบง่าย
- ถ้ารถดูใหม่เกินจริง แต่ราคา "ถูกผิดปกติ" ควรระวัง
- ชิ้นส่วนหลายจุด ถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งคัน เช่น พรม เบาะ ผ้าหลังคา น่าสงสัย
- กลิ่นอับแม้เปิดแอร์ กลิ่นสเปรย์ดับกลิ่นแรงผิดธรรมชาติ
- เปิดฝาถังน้ำมันหรือช่องสายพาน แล้วเจอคราบสนิม/ดินโคลน
วิธีป้องกันก่อนตัดสินใจซื้อ
✅ ทำสิ่งนี้ | เพื่อความมั่นใจ |
ขอประวัติรถ | ตรวจว่ารถเคยเคลมประกันหรือถูกน้ำท่วมมาก่อนหรือไม่ |
นำเข้าศูนย์ตรวจเช็ก | ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเช็กระบบไฟและกล่อง ECU |
เลี่ยงรถโซนเสี่ยงน้ำท่วม | เช่น เขตที่เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่ |
ตรวจสอบกับ Carfax / ข้อมูล VIN | ถ้าเป็นรถนำเข้าหรือรถเช่า |
ทำไมไม่ควรซื้อรถที่เคยจมน้ำ?
- ระบบไฟฟ้ามีความเสี่ยงขัดข้องแม้ซ่อมแล้ว
- กล่อง ECU/สมองกลอาจเสียในระยะยาว
- กลิ่นเหม็นอับหรือเชื้อราอาจไม่หมดไป
- ราคาขายต่อจะต่ำ และขายต่อยาก
สรุป:
การตรวจสอบรถมือสองก่อนซื้อ ต้องละเอียด โดยเฉพาะเรื่อง “รถจมน้ำ” เพราะแม้ภายนอกจะดูดีแค่ไหน ก็อาจซ่อนปัญหาหนักไว้ภายใน
ถ้าไม่มั่นใจ ควรพาช่างที่เชี่ยวชาญไปช่วยตรวจสอบก่อนตัดสินใจครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์
096-192-9698