ความต่างระหว่างภาษีรถเก๋งและรถกระบะ
ทุกปีเจ้าของรถต้องต่อ ภาษีรถยนต์ประจำปี หรือที่เรียกกันว่า “ป้ายวงกลม” ซึ่งเป็นภาษีตาม พ.ร.บ. รถยนต์ โดยกรมการขนส่งทางบกจะคิดไม่เหมือนกันระหว่าง รถเก๋ง และ รถกระบะ
รถเก๋ง → คิดตาม “ขนาดเครื่องยนต์ (CC)”
ภาษีรถเก๋งคำนวณตาม “ปริมาตรกระบอกสูบ” หรือที่เราเรียกว่า ซีซี (CC)
ยิ่ง CC สูง → ภาษีแพงขึ้นเรื่อย ๆ
อัตราภาษีเป็นขั้นบันได ดังนี้
อัตราภาษีรถเก๋ง (ตาม พ.ร.บ.)
ช่วงความจุกระบอกสูบ | อัตราภาษี (บาท/ซีซี) |
600 ซีซีแรก | 0.50 บาท |
601 – 1,800 ซีซี | 1.50 บาท |
1,801 ซีซีขึ้นไป | 4.00 บาท |
ตัวอย่าง:
รถเก๋ง 1,600 CC →
(600 x 0.50) + (1,000 x 1.50) = 300 + 1,500 = 1,800 บาท/ปี
รถเก๋ง 2,000 CC →
(600 x 0.50) + (1,200 x 1.50) + (200 x 4) = 300 + 1,800 + 800 = 2,900 บาท/ปี
ตัวอย่าง:
รถเก๋ง 1,600 CC →
(600 x 0.50) + (1,000 x 1.50) = 300 + 1,500 = 1,800 บาท/ปี
รถเก๋ง 2,000 CC →
(600 x 0.50) + (1,200 x 1.50) + (200 x 4) = 300 + 1,800 + 800 = 2,900 บาท/ปี
ตัวอย่าง:
รถกระบะ 4 ประตู น้ำหนักประมาณ 1,800 กก. → ภาษี = 600 บาท/ปี เท่านั้น
ตารางเปรียบเทียบ “เก๋ง vs กระบะ”
น้ำหนักรถ (กก.) | อัตราภาษี (บาท/ปี) |
ไม่เกิน 1,000 กก. | 300 บาท |
1,001 – 1,500 กก. | 450 บาท |
1,501 – 2,000 กก. | 600 บาท |
2,001 – 2,500 กก. | 750 บาท |
เกิน 2,500 กก. | 1,050 บาท |
ทำไมรถกระบะถึงถูกกว่า?
1. นโยบายรัฐ → เพื่อส่งเสริมการใช้กระบะเป็น “รถใช้งาน–ขนส่ง”
2. เก๋งถือเป็นรถส่วนบุคคลหรูหรา → รัฐจึงเก็บภาษีแพงกว่า
3. กระบะมีบทบาททางเศรษฐกิจ (เกษตร–ธุรกิจ) → จึงได้อัตราภาษีพิเศษ
ข้อสรุป
ถ้าใช้รถ เก๋ง → ภาษีแพงขึ้นตาม CC เครื่องยนต์ ยิ่งเครื่องใหญ่ก็จ่ายเยอะ
ถ้าใช้รถ กระบะ → ภาษีถูกกว่าเยอะ แม้จะเป็นรถใหญ่และแรงม้าเยอะ
ภาษีรถเก๋งจ่ายปีละ “พัน–หลายพันบาท” แต่ภาษีกระบะส่วนใหญ่แค่ “หลักร้อย–พันต้น ๆ” เท่านั้น
ดังนั้น เวลาเลือกซื้อรถ นอกจากดูราคาซื้อและค่าน้ำมันแล้ว อย่าลืมคิดถึงภาษีประจำปี เพราะเป็นค่าใช้จ่ายระยะยาวที่จะอยู่กับเราทุกปีครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์
096-192-9698